วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

เกาะลันตา


กระบี่

เกาะลันตา


เกาะลันตา

เกาะลันตา


อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา (ททท.)

         มีเนื้อที่ประมาณ 152 ตารางกิโลเมตร ในอำเภอเกาะลันตา ประกอบด้วยเกาะต่างๆ ที่สำคัญได้แก่ เกาะลันตาใหญ่ เกาะลันตาน้อย เกาะตะเล็งเบ็ง และเกาะใกล้เคียง รวมไปถึงหมู่เกาะห้า หมู่เกาะรอก และเกาะไหง

         ทั้งนี้ คำว่า "ลันตา" แผลงมาจากคำว่า "ลันตัส" ซึ่งเป็นภาษาชวา มีความหมายว่า "ผลาย่างปลา" ซึ่งก็คือที่ย่างปลาสร้างด้วยไม้ รูปสี่เหลี่ยมยกพื้นสูงขึ้นคล้ายโต๊ะ จุดไฟไว้ข้างล่าง เผาปลาที่เรียงไว้ข้างบน


 เกาะที่น่าท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ได้แก่...

           เกาะลันตาน้อย เป็นเกาะที่เป็นชุมชนของชาวเกาะลันตาในอดีตมาก่อน มีที่ว่าการอำเภอ มีโรงเรียนวิถีชีวิตแบบเก่าๆ บ้านเรือนโบราณยังมีให้พบเห็น


เกาะลันตา

เกาะลันตา

           เกาะลันตาใหญ่ มีรูปร่างยาวเรียวจากเหนือมาใต้ ศูนย์กลางธุรกิจของเกาะอยู่ที่บริเวณท่าเรือศาลาด่าน ซึ่งมีทั้งบริการท่องเที่ยว ร้านอาหาร ธนาคาร ด้านตะวันตกเรียงรายไปด้วยชายหาดและอ่าวที่สวยงามมากมาย ได้แก่ หาดคอกวาง หาดโละบารา อ่าวพระแอะ หาดคลองโขง หาดคลองนิน และมีถนนตัดจากท่าเรือตอนเหนือผ่านชายหาดต่างๆ ไปจนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ซึ่งอยู่ตอนใต้สุดของเกาะ พื้นที่ส่วนใหญ่บนเกาะมีสภาพเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน ปกคลุมด้วยป่าที่สมบูรณ์ ส่วนด้านตะวันออกมีชุมชนเก่าของเกาะลันตา เนื่องจากเคยเป็นที่ตั้งของที่ว่าการอำเภอมาก่อน ซึ่งย้ายไปอยู่ที่เกาะลันตาน้อย ชาวบ้านส่วนใหญ่บนเกาะลันตานับถือศาสนาอิสลาม และที่บ้านสังกะอู้ยังมีชนพื้นเมืองที่ยังคงยึดถือวัฒนธรรมประเพณี ได้แก่ ประเพณีลอยเรือ 

          ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตามีจุดชมวิว แหลมโตนด ซึ่งเป็นที่ตั้งของประภาคาร จากมุมนี้สามารถมองเห็นโค้งอ่าวกรวด และอ่าวหาดทรายขาวสะอาดมาบรรจบกัน ตอนปลายสุดของแหลมเป็นที่ตั้งของเกาะหม้อ เป็นจุดดำดูปะการังน้ำลึก นอกจากจุดชมวิวแหลมโตนดแล้ว ยังมีจุดชมวิวบนยอดเขาบริเวณตอนกลางเกาะที่มีร้านอาหารสามารถนั่งรับประทาน อาหารพร้อมกับชมทิวทัศน์ของทะเลอันดามันที่มีเกาะต่างๆ อยู่ท่ามกลางผืนน้ำสีน้ำเงินบนเกาะลันตาใหญ่มีที่พักเอกชนเปิดให้บริการมากมาย ฤดูท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม 

          นักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างแรมในบริเวณที่ทำการอุทยานฯ ควรติดต่อล่วงหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เลขที่ 5 ตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ 81150 โทร. 0 7562 9018-9 หรือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760 หรือ www.dnp.go.th   

เกาะลันตา

เกาะลันตา

 เกาะต่างๆ ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

           เกาะตะละเบ็งอยู่ระหว่างท่าเรือคลองม่วง-เกาะลันตา เป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นหินปูน คล้ายเกาะพีพีเล มีชายหาดเล็กๆ และโพรงถ้ำซึ่งจะโผล่ให้เห็นได้เฉพาะเวลาน้ำลง มีนกนางแอ่นอาศัยอยู่บนเกาะด้วย ในกลุ่มนี้จะมีเกาะผีซึ่งอยู่ไปทางทิศเหนือ และยังเป็นที่สามารถพายเรือแคนูได้  

           เกาะรอกในเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์ย่อยของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา  เป็นเกาะที่มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน ด้านทิศตะวันออกมีหาดทราย และแนวปะการังเป็นกลุ่มๆ ตามโขดหิน ด้านทิศเหนือของเกาะมีแหลมธงและอ่าวศาลเจ้า ผืนทรายที่เกาะรอกในละเอียดขาวเนียน น้ำทะเลใสเป็นสีเขียวจนมองเห็นปลาหลากสีสัน เป็นความบริสุทธิ์ของธรรมชาติที่ยังไม่มีใครเดินทางมาสัมผัสมากนัก บนเกาะยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้ได้เดินออกกำลังกายดูพันธุ์ไม้ ต่างๆ ได้อีกด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะพักค้างแรม บนเกาะ และมีที่สำหรับกางเต็นท์ สนใจสอบถามข้อมูลได้จาก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา โทร. 0 7562 9018 - 9

           เกาะรอกนอกทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศใต้ มีหาดทรายขาวละเอียด และแนวปะการังน้ำตื้น ด้านท้ายเกาะมีหาดทะลุและอ่าวม่านไทร ส่วนการเดินทางไปเกาะรอก นิยมเช่าเรือจากท่าเรือปากเมง ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง หรือใช้บริการนำเที่ยวด้วยเรือเร็วจากเกาะลันตา สามารถติดต่อได้จากบริษัททัวร์หรือสถานที่พักบนเกาะลันตาใหญ่ 

          หมายเหตุ : ไม่แนะนำให้เช่าเรือหางยาวเดินทางไปเกาะรอกเนื่องจากระยะทางไกล อาจไม่ปลอดภัยโดยเฉพาะในวันที่สภาพอากาศไม่ดี  

           เกาะไหงทางทิศตะวันออกของเกาะประกอบด้วยหาดทรายยาว และมีปะการังด้านหน้าหาด นับเป็นแหล่งดูปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์แห่งหนึ่ง การเดินทาง สามารถเช่าเรือจากท่าเรือปากเมง จังหวัดตรังได้ 

           หินแดง เป็นหินโสโครก อยู่ฝั่งด้านนอกของทะเลอันดามัน มีปะการังชนิดต่างๆ ที่สวยงามเหมาะสำหรับการดำน้ำ

           เกาะห้า(ตุกนลิมา) เป็นกลุ่มเกาะ 5 เกาะ เกาะห้าใหญ่มีรูปร่างคล้ายใบเรือ และเป็นจุดดำดูปะการังน้ำตื้น ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศปิดการท่องเที่ยวบริเวณเกาะห้า ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม - 30 พฤศจิกายน ของทุกปี

          ค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท

         หมายเหตุ : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ประกาศปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในแหล่งท่องเที่ยวของอุทยาน แห่งชาติหมู่เกาะลันตา บริเวณเกาะรอก กองหินแดง-กองหินม่วง และเกาะห้า (ตุกนลิมา) ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม - 31 ตุลาตมของทุกปี

เกาะลันตา

เกาะลันตา

 การเดินทางไปเกาะลันตาใหญ่

           รถยนต์ 

          นักท่องเที่ยวที่นำรถไปเองสามารถนำรถลงเรือได้ที่ท่าเทียบแพขนานยนต์ บ้านหัวหินไปเกาะลันตาน้อยและข้ามแพอีกครั้งไปยังเกาะลันตาใหญ่ สามารถข้ามแพได้ตั้งแต่เวลา 08.00 น.- 18.30 น. 

           ค่าข้ามแพ 

          จากบ้านหัวหิน – เกาะลันตาน้อย เวลาให้บริการ 07.00 - 22.00 น. เวลากลับ 06.00 - 22.00 น. ระยะเวลาการเดินทาง  15 - 20 นาที รถยนต์ คันละ 50 บาท ผู้โดยสารคนละ 3 บาท มอเตอร์ไซค์ คันละ 10 บาท 

          จากเกาะลันตาน้อย – เกาะลันตาใหญ่ เวลาให้บริการ 06.00 - 20.00 น  เวลากลับ 06.00 - 22.00 น. ระยะเวลาการเดินทาง 15 - 20  นาที รถยนต์ คันละ 50 บาท รวมคนขับ ผู้โดยสารคนละ 3 บาท มอเตอร์ไซค์ คันละ 10 บาท สามารถข้ามแพได้ตั้งแต่เวลา 07.00 น. – 20.00 น.  

          การเดินทางไปท่าเรือหัวหิน จากอำเภอเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ไปทางอำเภอคลองท่อม (เส้นทางไปจังหวัดตรัง)  ถึงบ้านแยกห้วยน้ำขาว ให้เลี้ยวขวาไปตามทางหลวง 4206 ประมาณ 20 กิโลเมตร จนถึงบ้านหัวหิน 
รถตู้ปรับอากาศ มีรถออกจากอำเภอเมือง วิ่งระหว่างกระบี่-เกาะลันตาใหญ่  รถออกเวลา08.30 - 16.00 น. ออกทุก 1 ชั่วโมง ค่าโดยสารคนละ 250 บาท ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง ส่วนขากลับจากเกาะลันตาใหญ่ จะมีรถออกเวลา 08.00 - 16.30 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 7562 2792 และ 0 7568 4121  

          นอกจากนั้น จากจังหวัดตรังก็มีรถตู้ปรับอากาศ ตรัง - เกาะลันตาใหญ่บริการ รถออกเวลา 09.30 - 16.30 น.และ ขากลับรถออกเวลา 08.00 - 15.00 น.  ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที  ค่าโดยสารคนละ 250  บาท สอบถามข้อมูลได้ที่โทร. 0 7521 1198  0 7522  3664 โทรสาร 0 7521  1441

 การเดินทางโดยรถประจำทางจากตรังไปกระบี่

           1.รถบัสท้องถิ่นสีแดง (รถพัดลม) ออกจากสถานนีขนส่งจังหวัดตรัง เวลา 06.00 - 17.00 น. ราคา คนละ 80 บาท  ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง

           2. รถปรับอากาศ ออกจากสถานนีขนส่งจังหวัดตรัง เวลา 06.00 - 17.00 น. ราคาคนละ 113 บาท ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง

           เรือโดยสารในฤดูท่องเที่ยว (เดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม)  มีเรือออกจากท่าเรืออำเภอเมือง ไปขึ้นที่ท่าเรือศาลาด่าน บนเกาะลันตาใหญ่ เรือออกเวลา 10.00 น. และ 13.00 น. ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 

 การเดินทางจากเกาะลันตาไปยังเกาะต่างๆ

          นอกจากนั้นบริษัทเรือเอกชนบนเกาะลันตายังมีเรือวิ่งให้บริการหลายเส้นทาง ดังนี้...

           เกาะลันตา – เกาะพีพี  เรือออกเวลา 08.00 น. และ 13.00 น. ค่าโดยสารคนละ 200 บาท

           เกาะลันตา - กระบี่ เรือออกเวลา 08.00 น. และ 13.00 น. ค่าโดยสารคนละ 200 บาท 

           เกาะลันตา – เกาะพีพี - ภูเก็ต เรือออกเวลา 09.00 น. และ 04.30 น. ค่าโดยสารคนละ 250 บาท

           เกาะลันตา – เกาะพีพี - กระบี่ เรือออกเวลา 09.00 น. และ 13.30 น.

           รวมทั้งมีเรือบริการวิ่งระหว่าง เกาะลันตา – เกาะจำ – กระบี่ และเรือบริการทุกวันจากเกาะลันตาใหญ่ไปเกาะไหง เกาะรอก และเกาะกระดาน สนใจสอบถามข้อมูลได้ที่โทร. 0 7568 4163,  0 1719 4811 
                                              อ้างออิง http://travel.kapook.com

เกาะสิมิลัน


สิมิลัน
สิมิลัน
สิมิลัน
สิมิลัน

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบสวยๆ จาก คุณ StupiD_BuG  

          ร้อน... ร้อน... ร้อน... นับวันอากาศบ้านเราดูเหมือนจะร้อนขึ้นทุกวันๆ แถมอุณหภูมิก็ดูเหมือนจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างนี้เราต้องหาวิธีคลายร้อนกันหน่อยแล้ว งั้น... ไปเที่ยวทะเลกันดีกว่า!!
          วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวทะเลดับร้อนกันที่ "อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน" หมู่เกาะกลางทะเลอันดามันที่เป็นเลิศในด้านความงามของปะการังใต้ท้องทะเล อยู่ที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ครอบคลุมพื้นที่ 80,000 ไร่ ประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2525

          สำหรับคำว่า "สิมิลัน" เป็นภาษายาวีหรือมลายู แปลว่า เก้าหรือหมู่เกาะเก้า ทั้งนี้ หมู่เกาะสิมิลันเป็นหมู่เกาะเล็กๆ ในทะเลอันดามัน มีทั้งหมด 9 เกาะ เรียงลำดับจากเหนือมาใต้ ได้แก่ เกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมี่ยง (มี 2 เกาะติดกัน) เกาะปายู เกาะหัวกระโหลก ( เกาะบอน) เกาะสิมิลัน และเกาะบางู มีที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน อยู่ที่เกาะเมี่ยงเพราะเป็นเกาะที่มีน้ำจืด หมู่เกาะเหล่านี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่เกาะที่มีความงามทั้งบนบกและใต้น้ำที่ยังคงความสมบูรณ์ของท้องทะเล สามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก มีปะการังที่มีสีสันสวยงามหลายชนิด ปลาหลากสีสันและหายาก เช่น กระเบนราหู ปลาวาฬ ปลาโลมา ปลาไหลมอนเร่ ปลาการ์ตูน 
สิมิลัน
สิมิลัน

          หากใครคิดจะไปเที่ยวที่ "อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน" ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน เป็นช่วงที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุด ส่วนช่วงเดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน เป็นฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มีคลื่นลมแรงเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติ จะประกาศปิดเกาะในเดือนพฤษภาคมเพื่อเป็นการฟื้นฟูธรรมชาติทุกปี 

เอาล่ะ!! ได้เวลามาดูสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ภายในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันกันแล้ว
          เริ่มกันที่ "เกาะสิมิลัน" ก่อนเลยแล้วกัน... เพื่อนๆ รู้ไหมว่า จริงๆ แล้ว "เกาะสิมิลัน" เนี่ย มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "เกาะแปด" เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะสิมิลัน ลักษณะอ่าวเป็นรูปโค้งเหมือนเกือกม้า มีหาดทรายขาวละเอียดเนียนนุ่ม น้ำทะเลสีใสน่าเล่น แถมใต้ท้องทะเลยังมีปะการังสวยงามหลากหลายชนิด ทั้งปะการังเขากวาง ปะการังใบไม้ ปะการังสมอง ปะการังดอกเห็ดขนาดใหญ่ที่มีความสมบูรณ์ กัลปังหา พัดทะเล กุ้งมังกร และปลาประเภทต่างๆ ที่มีสีสันสวยงามมากมาย เป็นเกาะที่สามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำลึกและน้ำตื้น ส่วนทางด้านเหนือของเกาะนั้นก็มีก้อนหินขนาดใหญ่รูปร่างแปลกตาชวนให้แปลกใจ เช่น หินรูปรองเท้าบู๊ท หรือรูปหัวเป็ดโดนัลด์ดั๊ก ตอนบนที่ตรงกับแนวหาดมีหินรูปเรือใบ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นความสวยงามของท้องทะเลได้กว้างไกล (ว้าว...) 
สิมิลัน
สิมิลัน
สิมิลัน

          ต่อกันที่ "เกาะบางู" หรือ "เกาะเก้า" เป็นเกาะเล็กๆ ที่มีโขดหินรูปลักษณะต่างๆ โดยเฉพาะที่จุดดำน้ำ "กองหินคริสมาสพอยต์" เป็นกองหินใต้น้ำขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามสลับซับซ้อนกันเป็นบริเวณกว้าง จะมีแนวปะการัง และกัลปังหาที่สมบูรณ์ และยังเป็นที่อยู่ของปลาหลากชนิด เช่น ปลาไหลริบบิ้น ฉลามครีบเงิน ปลาเก๋า ปลาบู่ กั้งตั๊กแตน... ถูกใจนัก (ชอบ) ดำน้ำนักแหละ

          "เกาะหัวกะโหลก-หินปูซา" หรือ "เกาะเจ็ด" เป็นเกาะที่มีลักษณะเหมือนรูปหัวกะโหลก สภาพใต้น้ำสวยงามเหมือนหุบเขาใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยปะการังอ่อน กัลปังหารูปพัดหลากสีสัน ฝูงปลานานาพันธุ์ และยังสามารถพบปลากระเบนราหู หรือฉลามวาฬได้มากที่สุดแห่งหนึ่งในหมู่เกาะสิมิลัน

          "เกาะหูยง" หรือ "เกาะหนึ่ง" เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่มีหาดทรายขาวสะอาด และยาวมากที่สุดในเก้าเกาะ มักจะมีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้เห็นร่องรอยของเต่าที่ขึ้นมาวางไข่บนชายหาดคล้ายกับรอยตีนตะขาบเล็กๆ
          "เกาะเมี่ยง" หรือ "เกาะสี่" เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่รองจากสิมิลัน เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เพราะมีแหล่งน้ำจืด ชายหาดที่เกาะสี่จะมีสีขาวละเอียดเนียนสวยงามน่าสัมผัส น้ำทะเลใส บนเกาะสี่จะมีสัตว์ที่หาดูได้ยาก เช่น ปูไก่ ที่มีลำตัวเป็นสีแดงสด มีก้ามสีดำเหลือบน้ำเงิน เวลาร้องจะมีเสียงคล้ายไก่ จะเห็นได้ในช่วงหัวค่ำที่มันออกหากิน นกชาปีไหน เป็นนกประจำถิ่นขนาดใหญ่ตระกูลเดียวกับนกพิราบป่า มีสีสันและลวดลายบนตัวที่งดงาม จะพบได้ตามริมชายหาด หรือร้านอาหารหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และ ปูเสฉวน ที่มีมากมายหลายขนาดทั้งเล็กและใหญ่

          อย่างไรก็ตาม บริเวณรอบๆ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ยังมีบริเวณดำน้ำที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอีกมากมาย ทั้งจุดดำน้ำลึกอย่าง "เกาะตาชัย" ที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของอุทยาน คุณจะได้พบกับปลาสาก ปลาค้างคาว ปลากระเบนราหู ฉลามวาฬ "เกาะบอน" อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่เกาะสิมิลัน คุณจะได้พบกับฉลามครีบขาว ปลากระเบนราหู ฉลามกบ "กองหินคริสต์มาสพอยต์" จะพบปลาไหลริบบิ้นสีฟ้า กั้งตั๊กแตน "กองหินแฟนตาซี" อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะแปด เป็นจุดรวมของหินดอกไม้ ปะการัง กัลปังหา สัตว์น้ำหลากชนิด ส่วนจุดดำน้ำตื้น ได้แก่ อ่าวลึก อ่าวกวางเอง เป็นต้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจกิจกรรมดำน้ำ สามารถติดต่อบริษัทดำน้ำในจังหวัดภูเก็ตและพังงาได้เลยค่ะ
สิมิลัน
สิมิลัน
สิมิลัน
สิมิลัน

การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
          ท่าเรือทับละมุ อำเภอท้ายเหมือง อยู่ห่างจากอำเภอเมือง 70 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายพังงา - ตะกั่วป่า และเป็นท่าเรือที่อยู่ใกล้อุทยานฯ ที่สุด ประมาณ 40 กิโลเมตร จากท่าเรือทับละมุใช้เวลาในการเดินทางไปหมู่เกาะสิมิลันประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง มีเรือให้เช่าหลายขนาด สำหรับ 30 คน ราคาประมาณ 10,000 บาท และ 40 คน ราคาประมาณ 12,000 บาท และใกล้ๆ บริเวณท่าเรือทับละมุมีที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเดินทางไปหมู่เกาะสิมิลัน มีเรือขนาด 80 คน ราคา 2,300 บาท/คน (ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้) 

          ท่าเรือคุระบุรี อำเภอคุระบุรี อยู่ห่างจากหมู่เกาะสิมิลัน 70 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 3 ชั่วโมง สามารถติดต่อเช่าเรือได้ที่ คุระบุรี กรีนวิว รีสอร์ท

          ท่าเรือหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ก็สามารถเดินทางไปอุทยานฯได้ ระยะทาง 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัทนำเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต หรือเดินทางโดยเรือท่องเที่ยวของบริษัทเอกชน
สิมิลัน
สิมิลัน
    อ้างอิง http://travel.kapook.com



หมู่เกาะอ่างทอง


หมู่เกาะอ่างทอง

หมู่เกาะอ่างทอง

หมู่เกาะอ่างทอง
หมู่เกาะอ่างทอง

หมู่เกาะอ่างทอง
หมู่เกาะอ่างทอง

หมู่เกาะอ่างทอง

หมู่เกาะอ่างทอง
หมู่เกาะอ่างทอง
หมู่เกาะอ่างทอง
หมู่เกาะอ่างทอง

หมู่เกาะอ่างทอง


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก กรมอุทยานแห่งชาติ

          พื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย ขึ้นชื่อว่ามีท้องทะเลที่สวยงามตติดอันดับโลกก็ว่าได้ ทั้งทางฝั่งอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน โดยเฉพาะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่มี แหล่งท่องเที่ยว ทางทะเลให้ไปเยี่ยมเยือนและชมความงามของน้ำทะเลใส ๆ ฟ้าสวย ๆ หาดทรายขาวละเอียด ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮอตของ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็คงหนีไม่พ้นเกาะสมุย นั่นเอง แต่จริง ๆ แล้ว จังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังมีที่เที่ยวสวยพอ ๆ กับ เกาะสมุย อีกเพียบ เพราะฉะนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมเลยขออาสาเป็นไกด์ พาทัวร์หมู่เกาะอ่างทอง สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี อีกที่หนึ่งที่งดงามไม่แพ้ที่ไหน ๆ 

          หมู่เกาะอ่างทอง หรือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่มีลักษณะเป็นหมู่เกาะในอ่าวไทย ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครอบคลุมพื้นที่ 102 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นน้ำประมาณ 84 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 82 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมด อยู่ห่างจากเกาะสมุยและเกาะพะงันไปทางทิศตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร 


หมู่เกาะอ่างทอง
หมู่เกาะอ่างทอง

หมู่เกาะอ่างทอง
หมู่เกาะอ่างทอง

หมู่เกาะอ่างทอง
หมู่เกาะอ่างทอง
หมู่เกาะอ่างทอง
หมู่เกาะอ่างทอง

          แต่เดิมบริเวณ หมู่เกาะอ่างทอง เป็นพื้นที่หวงห้ามของกองทัพเรือ ซึ่งมีโครงการจะสร้างฐานทัพเรือเพื่อควบคุมความปลอดภัยของประเทศทางด้านอ่าวไทย แต่ด้วยมีทิวทัศน์สวยงาม ทะเลสาบ หน้าผา ถ้ำทะลุ เกาะรังนกนางแอ่น นกนานาชนิด แนวปะการัง และเป็นแหล่งอาศัยและเพาะพันธุ์ปลานานาชนิด แต่คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้มีมติพิจารณาจัด หมู่เกาะอ่างทอง ให้เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลอีกแห่งหนึ่ง โดย หมู่เกาะอ่างทอง ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2523 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 21 ของประเทศไทย

          สำหรับลักษณะภูมิประเทศของ หมู่เกาะอ่างทอง ประกอบด้วยเกาะ 42 เกาะ ได้แก่ เกาะพะลวย เกาะวัวตาหลับ เกาะแม่เกาะ เกาะสามเส้า เกาะหินดับ เกาะนายพุด และเกาะไผ่ลวก เป็นต้น แต่เกาะที่มีขนาดใหญ่ เช่น เกาะวัวตาหลับ เกาะพะลวย เกาะแม่เกาะ เกาะสามเส้า เกาะหินดับ และเกาะท้ายเพลา ซึ่งตามเกาะต่าง ๆ จะมีหาดทรายอยู่เกือบทุกเกาะ บางเกาะหาดทรายมีสีขาวสะอาดบริสุทธิ์ บางเกาะมีปะการังตามชายทะเลหลายชนิด สีสวยงามหลากสี อยู่ท่ามกลางความเงียบสงบ 


หมู่เกาะอ่างทอง
 
 หมู่เกาะอ่างทอง
หมู่เกาะอ่างทอง
หมู่เกาะอ่างทอง
หมู่เกาะอ่างทอง
หมู่เกาะอ่างทอง

          ทั้งนี้ ช่วงเวลาระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ของทุกปี เป็นช่วงฤดูมรสุม ทะเลจะมีคลื่นลมแรง ทำให้การเดินทางไป หมู่เกาะอ่างทอง ไม่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว ทางอุทยานแห่งชาติจึงกำหนดปิดการท่องเที่ยวประจำปี ได้แก่ ...

           ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน - 23 ธันวาคม ของทุกปี
           เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม - 31 ตุลาคม ของทุกปี

หมู่เกาะอ่างทอง

หมู่เกาะอ่างทอง 

แหล่งท่องเที่ยวใน หมู่เกาะอ่างทอง ได้แก่...

           เกาะท้ายเพลาและเกาะวัวกันตัง

          เกาะท้ายเพลาและเกาะวัวกันตัง เป็นจุดที่มีแนวปะการังและหาดทรายขาวสะอาด 

          เกาะวัวตาหลับ

          เกาะวัวตาหลับ อยู่บริเวณอ่าวคาเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ด้านหน้าของที่ทำการอุทยานแห่งชาติ เป็นหาดทรายขาวสะอาดเหมาะแก่การเล่นน้ำ นอนเล่นพักผ่อนริมหาด เมื่อขึ้นไปจุดชมทิวทัศน์บนยอดเขา ระยะทางประมาณ 500 เมตร จะมองเห็นหมู่เกาะอ่างทองทั้งหมดที่ทอดตัวเรียงรายเป็นแนวยาวด้วยรูปร่าง ต่าง ๆ แปลกตา นอกจากนี้ยังมี ถ้ำบัวโบก ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นแหล่งที่มีความแปลกและเด่นทางธรณีวิทยา โดยเฉพาะหินงอกหินย้อยรูปร่างสวยงามดูคล้ายดอกบัวบาน


หมู่เกาะอ่างทอง
หมู่เกาะอ่างทอง

           เกาะสามเส้า
 
          เกาะสามเส้า ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ เกาะแม่เกาะ เป็นแหล่งปะการังที่สวยงาม และมีสะพานหินธรรมชาติที่ยื่นโค้งออกไปในทะเล มีหาดทรายขาวสะอาดเหมาะแก่การตั้งแค็มป์พักแรมและว่ายน้ำชมปะการัง


หมู่เกาะอ่างทอง

หมู่เกาะอ่างทอง

           เกาะหินดับ

          เกาะหินดับ เป็นเกาะที่มีหาดทรายที่สวยงามและชายหาดที่ยาวที่สุดในอุทยานแห่งชาติ สภาพภูมิประเทศและทัศนียภาพรอบเกาะสวยงามน่าชม


หมู่เกาะอ่างทอง

หมู่เกาะอ่างทอง

           ทะเลใน

          ทะเลใน หรือ ทะเลสาบกลางภูเขา อยู่บน เกาะแม่เกาะ เป็นแอ่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาหินปูนที่สูงสลับ ซับซ้อนแต่มีอุโมงค์ใต้น้ำที่เชื่อมต่อกับทะเล การกำเนิดของทะเลสาบน้ำเค็มนี้ได้มีการสันนิษฐานว่า เกิดจากการยุบตัวของหินชั้นล่างทำให้เกิดบ่อยุบ ซึ่งเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับหมู่เกาะ หรืออาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในกระบวนการเดียวกับการเกิดถ้ำ
 

หมู่เกาะอ่างทอง

หมู่เกาะอ่างทอง

           เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
          
           ทางเดินศึกษาธรรมชาติทางบก จำนวน 1 เส้น ชื่อ เส้นทางศึกษาธรรมชาติจุดชมวิว อยู่ที่อ่าวคา เกาะวัวตาหลับ ระยะทาง 500 เมตร 

           ทางเรือ จำนวน 2 เส้น ชื่อ เส้นทางศึกษาธรรมชาติทางน้ำ โดยเรือแคนู บริเวณรอบเกาะผี ระยะทางประมาณ 600 เมตร และบริเวณระหว่างชายหาดอ่าวคา–ชายหาดหน้าทับ ระยะทางประมาณ 2,200 เมตร 

           เส้นทางดำน้ำแบบดำผิวน้ำ จำนวน 3 เส้นชื่อ เส้นทางศึกษาธรรมชาติสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ บริเวณเกาะท้ายเพลา ระยะทางประมาณ 200 เมตร บริเวณเกาะสามเส้า ระยะทางประมาณ 150 เมตร บริเวณอ่าวคา เกาะวัวตาหลับ ระยะทางประมาณ 150 เมตร


หมู่เกาะอ่างทอง

หมู่เกาะอ่างทอง

สิ่งอำนวยความสะดวก

          หมู่เกาะอ่างทอง มีบริการบ้านพัก จำนวน 5 หลัง ราคา 500 – 1,400 บาท มีเต็นท์บริการ ราคา 200 – 300 บาท/ คืน และสถานที่กางเต็นท์บริการนักท่องเที่ยวกรณีที่นำเต็นท์มาเอง เก็บค่าสถานที่ หลังละ 20 บาท การสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง หากต้องการดูรายละเอียดเกี่ยวกับคำแนะนำ อัตราค่าบริการสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์เพิ่มเติ่ม คลิกที่นี่

          ทั้งนี้ ทาง หมู่เกาะอ่างทอง มีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ บนเกาะวัวตาหลับ และมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 1 แห่ง อยู่บริเวณ อ่าวคา เกาะวัวตาหลับ มีการจัดนิทรรศการ เพื่อให้ความรู้และให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยว

          ส่วนอัตราค่าบริการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ได้แก่ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 40 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง 145/1 ถนนตลาดล่าง ตำบลตลาด อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฏร์ธานี 84000 โทรศัพท์ 0 7728 6025, 0 7728 0222 โทรสาร 0 7728 6588 อีเมล angthong_np@hotmail.com



ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น 


การเดินทาง
    

           รถยนต์
     
          กรุงเทพฯ -สุราษฎร์ธานี ใช้เส้นทางสายธนบุรี–ปากท่อ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35 แล้วใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 ถึงสุราษฎร์ธานี ระยะทางประมาณ 644 กิโลเมตร
 
           รถโดยสารประจำทาง
 
          รถยนต์โดยสารปรับอากาศ (กรุงเทพฯ-เกาะสมุย ป.1) ราคา 745 บาท ถึงท่าเรือเฟอร์รี่หน้าทอน อำเภอเกาะสมุย ส่วนการเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าสู่อำเภอเกาะสมุย ระยะทางประมาณ 84 กิโลเมตร อัตราค่าโดยสารสำหรับรถโดยสารปรับอากาศ ราคา 210 บาท และเรือธรรมดา (เรือนอน) ออกจากท่าเรือบ้านดอน สุราษฎร์ธานี เวลา 23.00 น. ถึงเกาะสมุยเวลา 05.00 น. เที่ยวกลับออกจากเกาะสมุยเวลา 21.00 น. ถึงสุราษฎร์ธานี เวลา 04.00 น.

           เครื่องบิน
     
          โดยสายการบินของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จากกรุงเทพฯ–สุราษฎร์ธานี และของบริษัท บางกอกแอร์เวย์ จำกัด เปิดบริการเที่ยวบิน กรุงเทพฯ–เกาะสมุย ไปกลับทุกวันใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที

           เรือ
     
          ขึ้นเรือจากอำเภอดอนสัก และซื้อตั๋วข้ามฝั่งไปยังท่าเรือหน้าทอน อำเภอเกาะสมุย เรือโดยสารออกเดินทางเวลาประมาณ 8.30 น. เพียงวันละ 1 เที่ยว ขากลับเรือออกจากหมู่เกาะอ่างทอง เวลา 15.00 น. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง และบริษัททัวร์มีบริการนำเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองแบบไปเช้า- เย็นกลับรวมค่าอาหารเช้า กลางวัน

           รถไฟ
 
          จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) มีบริการเดินรถทุกวัน ผู้โดยสารต้องเดินทางไปลงที่สถานีรถไฟพุนพิน แล้วต่อรถยนต์หรือรถโดยสารเข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วเดินทางต่อโดยรถโดยสารประจำทางสายสุราษฎร์ธานี - เกาะสมุย
                                                     อ้างอิง http://travel.kapook.com